ประเภทของเลนส์ และการเรียกชื่อเลนส์ในช่วงต่างๆ
เลนส์
เราเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าเวลาเราถ่ายภาพไม่ว่าจะใช้กล้องหรือมือถือ แม้ว่าเราจะยืนที่เดียวกัน ภาพก็อาจจะแตกต่างกัน หรือมุมมองไม่เหมือนกัน และเวลาเราใช้มือถือในคู่มือเขาบอกเราว่ามีเลนส์ช่วงไหนบ้าง แต่เราก็อาจจะไม่เข้าใจ นี่คือสิ่งสำคัญในการถ่ายภาพ ถ้าเราเข้าใจว่าเลนส์ช่วงไหนให้มุมมองแบบไหนเราก็จะสามารถสร้างสรรค์ภาพได้ตามทีเราต้องการ
เลนส์ คือ อุปกรณ์ที่สำคัญในการถ่ายภาพออกมาว่าภาพเราจะมีหน้าตาแบบไหน จะมุมกว้าง แคบ อย่างไร ไม่ว่าจะใช้กับกล้องDSLR ,Mirrorless ,Compact หรือจนกระทั้งมือถือ เมื่อเราใช้แต่ละช่วงก็จะได้มุมมองของภาพ แตกต่างกัน มาเรียกรู้กันครับ
การแบ่งประเภทเลนส์
1.แบบตามประเภทเลนส์ มีด้วยกัน 2 แบบ
1.1เลนส์ฟิกซ์ (Fix Lens)
คือเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสเดียว มีด้วยเกือบกันทุกช่วง แล้วแต่ค่ายไหนจะออกเลนส์มาให้ใช้ เช่น 28,35,50,85,100,135,300 เป็นต้น เมื่อมีทางยาวโฟกัสเดียวจึงไม่มีผลในด้านไดนามิกการออกแบบเลนส์ จึงทำให้มีชิ้นเลนส์น้อย ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา ให้ความคมชัดที่ดี แต่ข้อเสียเนื่องจากมีโฟกัสเดียวเวลาเราใช้จึงต้องมีการ ซูมเข้าออกด้วยเท้าของคนถ่ายเอง เพื่อหาองค์ประกอบ
1.2.เลนส์ซูม (Zoom Lens)
คือเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสได้หลายช่วง สะดวกในการหามุมมองจัดองค์ประกอบภาพ มีด้วยกันทุกช่วง ไม่ว่าจะเป็น ไวด์, นอร์มอลซูม จนถึง เทเล เช่นเลนส์คิท 18-55 ,17-35,28-135,70-200 หรืออาจจะเรียกว่าเลนส์อเนกประสงค์ แต่เลนส์พวกนี่ด้วยไดนามิกการออกแบบเลนส์ จึงทำให้อาจจะมีน้ำหนักมาก และคุณภาพก็อยู่ที่การออกแบบและชิ้นเลนส์ แต่เป็นเลนส์ที่สะดวก เวลาพกไปเที่ยว แล้วมีเลนส์ได้ครบทุกช่วง เราอาจจะเคยได้ยินว่าเรียกว่าเลนส์”เที่ยวทั่วไทย”
2. แบ่งเลนส์ตามทางยาวโฟกัสแบ่งด้วยกัน 5 ช่วง
2.1 เลนส์ช่วงนอร์มอล์หรือมาตรฐาน (nolmal Lens)
เป็นเลนส์ช่วงทางยาวปกติ ที่ใกล้เคียงกับมุมมองของสายตามนุษย์ มีทางยาวโฟกัสประมาณ 50-55 ม.ม เช่นเลนส์ sigma 50 1.4, canon 50 .1.4 ถือว่านิยมนำมาใช้ถ่ายกับภาพที่ต้องการงานที่ได้มุมมองกับสายตาคนมากที่สุด
2.2เลนส์ช่วงไวด์ (Wide Angle Lens)
เป็นเลนส์ที่นับทางระยะทางยาวโฟกัสน้อยกว่า 50 ม.ม ลงมาเรื่อยๆ ถ้าน้อยกว่า28 เราก็มักจะเรียกเลนส์นั้นว่าซุปเปอร์ไวด์ เช่น 17-35,17-40,11-18, ด้วยความที่มีมุมมองเวลาเราถ่ายภาพแล้วจะดูกว้างยิ่งใหญ่ ทำให้ดูอลังการ จึงนิยมนำมาถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือเวลาเราถ่ายสถานที่จำกัดพื้นที่แคบถ้ามีเลนส์ช่วงไวด์มากๆก็จะถ่ายได้มาครอบคลุม แต่จุดอ่อนของเลนส์ที่ไวด์มากๆ เวลาถ่ายออกมาแล้วอาจจะบิดเบี้ยวจึงต้องนำไปแก้ไขในโปรแกรมแต่งภาพ แต่จะใหม่มุมที่แปลกตา
2.3.เลนส์ช่วงเทเล (Telephoto Lens)
เป็นเลนส์ช่วงทางยาวโฟกัสที่แคบ ส่วนมากจะนิยมเรียกทางยาวเกินจาก 70 ขึ้นไป เช่น 70-200 ,70-300 ,100-400 ม.ม เนื่องจากเป็นเลนส์ช่วงทางยาวโฟกัสที่ใกล้ และเมื่อถ่ายแล้วได้มุมมองภาพที่ดูใกล้ จึงนิยมนำไปถ่ายภาพ นก สัตว์ที่อยู่ไกล หรือถ่ายงานกีฬา และช่วง 85 และ135 เป็นช่วงที่นิยมนำไปถ่ายภาพบุคคลเพราะจะได้ฉากหลังที่ละลายสวยงามและแบบไม่อึดอัด
2.4.เลนส์ช่วงมาโคร (Macro Lens)
เป็นเลนส์พิเศษที่มีอัตราขยายเท่ากับวัตถุจริงหรืออาจจะมากกว่าแล้วแต่การออกแบบ และจะสามารถนำไปใช้ถ่ายได้ใกล้วัตถุที่จะถ่าย กว่าเลนส์ปกติ เช่นเลนส์ 100มาโคร 105 มาโคร นิยมนำไปถ่ายวัตถุเล็กๆเช่นดอกไม้ แมลง สัตว์ตัวเล็กๆ เพราะจะได้ความคมชัดที่ดี และบางคนยังนิยมนำมาถ่ายภาพบุคคล อีกด้วย
2.5. เลนส์ช่วงฟิชอาย (Fisheye Lens)
หรือที่เราเรียกกันว่า เลนส์ตาปลา เนื่องจากเลนส์ด้านหน้าจะมีความนูนโค้งมากกว่าปกติ ทำให้ภาพที่ได้ จะมีความแปลกตาไป เช่น 8มม. ,10.5มม. ภาพที่ได้จะมีความกว้างถึง180องศา ส่วนใหญ่ไว้ถ่ายภาพที่มีความกว้างมากๆในสถานที่แคบๆ เช่นถ่ายสนามบอลให้ดูอลังการ หรือ ถ่ายภาพคนให้ดูแปลกตาออกไปจากเดิม
3.สรุป
เมื่อเรารู้จักเลนส์แล้ว และระยะทางของเลนส์แล้ว ทำให้เราเข้าใจว่าเลนส์ช่วงไหนให้มุมมองอย่างไรเช่น เวลาเราไปถ่ายที่แคบๆ เราก็นิยมพาเลนส์ไวด์ไป หรือเวลาเราไปถ่ายภาพนก เราก็นิยมใช้เลนส์เทเลที่มีทางยาวโฟกัสยาวๆ หรือเวลาเราถ่ายบุคคล เราจะใช้เลนส์ฟิกเช่น 85,135 ไปถ่ายเพื่อละลายฉากหลังได้ ทำให้เราได้ภาพตามความต้องการ และต้องใจเราที่สุดไม่ว่าเราจะใช้กล้องหรือมือถือถ่าย
ภาพ-บทความ : ช้างอิมเมท ม.ค /64