การเดินทางนั้นคู่กับการถ่ายภาพ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกในความทรงจำ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพย่อมอยากจะเก็บภาพสวยๆเอาไว้ และภาพที่สวยก็ต้องมีวิวที่สวยเป็นองค์ประกอบหลัก วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเหมือนแลนมาร์คในเมืองไทยสำหรับคนที่รักการถ่ายรูปและการท่องเที่ยวต้องลองหาโอกาสไปชักภาพสักครั้ง

เริ่มกันที่กรุงเทพกันก่อน ที่แรกที่เราจะแนะนำก็คือพระปรางค์ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เนื่องจากเป็นพระปรางค์ที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากพระปรางค์ที่วัดอื่น มีการประดับด้วยเปลือกหอย กระเบื้องเคลือบ ชามเบญจรงค์ วัดอรุณเป็นวัดที่ได้รับความนิยมจากเหล่าบรรดานักถ่ายภาพทั้งไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก

สถานที่ที่สองที่เราจะแนะนำก็ที่อยู่ในกรุงเทพเหมือนกันก็คือ เสาชิงช้า หรือหน้าวัดสุทัศนเทพวราราม เป็นจุดศูนย์กลางของพระนครในอดีตตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ ยิ่งถ้าอยากจะได้มุมสวยๆและคนไม่พลุกพล่าน ให้มาถ่ายแต่เช้า ยิ่งตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้นยิ่งดูสวยงาม และนอกจากนี้แล้วบริเวณเสาชิงช้ายังมีสถานที่สวยๆ ตึกเก่าๆและร้านอาหารเก่าๆที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลาหลายสิบปีให้เข้าไปหาอะไรทานหลังจากที่ถ่ายรูปเหนื่อยๆแล้วอีกด้วย

ที่ถัดมาที่เราอยากแนะนำ ก็อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก นั่งรถเพียงชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว หากใครที่เบื่อๆระหว่างทางก็หาทางแก้เบื่อได้ด้วยการเข้าไปเยี่ยมชมเว็บ Thailand12bet จะนำความสนุกสนานมาให้ได้แน่นอน กลับมาที่เรื่องที่เที่ยวกันต่อ เรากำลังจะพูดถึงเมืองสุพรรณบุรี เมืองอู่ข้าวอู่น้ำในอดีตของไทย สำหรับสถานที่ที่ต้องปักหมุดไว้เพื่อมาถ่ายรูปก็ต้องยกให้ อุทยานมังกรสวรรค์ ที่ตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคืออาคารรูปมังกรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งรูปปั้นยักษ์ และน้ำตกสวยให้ถ่ายรูปอีกด้วย

สำหรับสถานที่อันดับ 4 ที่คราวนี้เราจะพาขึ้นไปเหนือสุดของประเทศไทยอย่างจังหวัดเชียงราย ที่มีวัดร่องขุน ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามที่สุดวัดหนึ่งในประเทศไทย โดบเฉพาะอุโบสถที่ออกแบบด้วยสถาปัตกรรมอันแสนวิจิตร ทั้งช่อฟ้า ใบระกา รวมทั้งสีของวัดที่เป็นสีขาวล้วน เมื่อส่องกระทบกันแสงจะสร้างความงดงามราวกับภาพเนรมิตเลยก็ว่าได้

อันดับที่ 5 เราจะพาทุกคนลงใต้ไปยังจังหวัดสตูล ที่เกาะเล็กๆที่ชื่อว่าเกาะไข่ ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ที่เกาะไข่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มากด้วยหาดทรายละเอียดขาวและน้ำทะเลใส  สิ่งที่ดึงดูดความสนใจและน่าจะเก็บภาพไว้คือ ซุ้มประตูหิน ซึ่งเชื่อกันว่าถ้ามีคู่รักที่จัดพิธีแต่งงานและได้ลอดซุ้มประตูหินนี้ จะอยู่ด้วยกันแบบถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรเลยทีเดียว

ขึ้นเหนือและล่องใต้กันไปแล้วคราวนี้เราไปที่ทางภาคอีสานกันบ้างดีกว่า และที่เราจะแนะนำให้นักท่องเที่ยวที่รักการถ่ายภาพห้ามพลาดก็อยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชื่อว่า สามพันโบกหรือแกรนแคนยอนเมืองไทย ซึ่งตั้งอยู่กลางแม่น้ำโขง สภาพภูมิศาสตร์เป็นแก่งหินน้อยใหญ่สวยงาม เป็นปรากฎการธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำวน แนะนำให้นักท่องเที่ยวมาแวะที่นี่ในช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก แสงแดดยามเย็นจะส่องมากระทบหิน สร้างความสวยงามแบบที่ไม่เคยเห็นในสถานที่เที่ยวที่ไหนในเมืองไทยมาก่อน

ปิดท้ายกันด้วยอีกสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน ซึ่งเป็นที่สุดท้ายแต่รับรองความงดงามนั้นไม่ท้ายสุดอย่างแน่นอน เรากำลังพูดถึง มอหินขาว หรือ โสตนเฮ้นจ์เมืองไทย ที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ มีลักษณะเป็นเสาหินและแท่งขนาดใหญ่ ที่เหมือนมีใครมาวางตั้งไว้ ที่สำคัญคือ มอหินขาว นั้น ถ่ายรูปออกมาสวยทุกฤดู เพราะหน้าฝนจะมีดอกไม้หลากสีสันในบริเวณทุ่ง และหน้าหนาวอากาศจะดีมากๆ และหากคุณต้องการถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่นี่ก็สวยไม่แพ้ที่ใดเลยเช่นกัน