ระบบกล้องต่างๆเวลามองสีในการถ่ายภาพ กล้องจะมองเห็นสีเป็นค่าเทากลาง 18 % ไม่ว่ากล้องจะถ่ายวัตถุอะไรก็ตาม ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานของกล้องที่ใช้ในการมองเห็นสีต่างๆ โดยจะอิงกับการวัดแสง ในตัวกล้องของเรา ถ้าวัตถุมีสีเหมือนกันก้ไม่เป็นไร แต่วัตถุต่างๆมีการสะท้อนแสงไม่เท่ากัน เช่นถ้าวัตถุขาวๆก็สะท้อนแสงได้มาก หรือถ้าวัตถุดำก็สะท้อนได้น้อย จึงเป็นสาเหตุที่จะต้องมี การชดเชยแสง

**ถ้าเราถ่ายวัตถุที่เป็นสีเทาก็จะไม่เป็นปัญหาอะไร เราเลยจะใช้วัตถุสีเทามาเป็นตัวช่วยในการวัดแสงนั้นเอง**

การวัดแสงจะใช้ในโหมดการถ่ายภาพ P , A(AV) S(TV) ส่วนโหมด M ไม่จำเป็นเพราะเราสามารถปรับค่าแสงได้อยู่แล้ว

การชดเชยแสงแบบต่างๆ

1.ถ้าแสงอยู่จุดกลางถือว่า”แสงพอดี”

2.ถ้าชดเชยไปทางซ้ายเรียกว่า”ชดเชยแสงทางลบ”

3.ถ้าชดเชยไปทางขวา เรียกว่า”ชดเชยแสงทางบวก”

*ส่วนจะชดเชยไปทาง”ลบ”หรือ”บวก”ประมาณไหนอยู่ที่เราถ่ายอะไรและเราต้องการได้ภาพแบบไหน จะโทนมืดหรือว่าโทนสว่าง*

สรุปการชดเชยแสง

1.ถ่ายวัตถุสีสว่างกว่าค่าเทากลาง ทำให้เราถ่ายมามืด เราก็ต้องชดเชยแสงไปทางบวก โดยค่าเท่าไรแล้วแต่วัตถุที่เราถ่าย

2.ถ่ายวัตถุสีมืดกว่าค่าเทากลาง ทำให้เราถ่ายภาพมาสว่าง เราก็ต้องชดเชยแสงไปทางลบ โดยค่าเท่าไรแล้วแต่วัตถุที่เราถ่าย

เคล็บลับจำง่าย “ขาวเวอร์ ดำเดอร์”คือขาวให้ชดเชยไปทางบวก ดำให้ชดเชยไปทางลบ

ตัวอย่างการชดเชยแสง

-สีเหลือง จะเห็นว่าสว่างกว่าเทากลางเมื่อถ่ายภาพภาพจะอันเดอร์ประมาณ 1.5 สต๊อป เราก็ต้องชดเชยแสงไปทางบวกให้ได้ตาตาเห็นก็คือชดเชยไป 1.5 เป็นต้น

-สีน้ำเงิน จะเห็นว่ามืดกว่า ค่าเทากลาง เมื่อเราถ่ายภาพก็จะสว่าง ประมาณ -1.5 เราก็ต้องชดเชยแสงไปทางลบให้เท่ากับตาเห็นก็คือชดเชยไป -1.5 เป็นต้น

-ส่วนค่าอื่นๆจะลบหรือเพิ่มตามแสงที่เรามองเห็นก็จะได้ภาพตรงตามที่เราต้องการ

-แต่บางครั้งเราอาจจะถ่ายภาพมามืดหรือสว่างตามความต้องการของเราก็ได้แล้วแต่เราต้องการ แต่ถ้าเราต้องการถ่ายให้ตรงก็ต้องเรียนรู้การชดเชยแสง

เมื่อเราเข้าใจสีเข้าใจวัตถุที่เราถ่ายว่าสะท้อนมาแบบไหนเราก็จะสามารถที่จะถ่ายภาพได้ตรงกับตาเราเห็น แม้ว่าสมัยนี้จะมีกล้องมิลเลอร์เรทที่เราสามารถปรับค่าได้ก่อนถ่ายภาพแล้วก็ตาม แต่ถ้าเราเข้าใจ เราก็สามารถสร้างสรรค์ภาพได้ตามที่เราต้องการ

บทความ : ช้างอิมเมท